อากาศหนาวเย็นในเมืองไทยเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนต่างรอคอย (ดาวเองก็เช่นกัน) แต่...ก็ต้องลุ้นว่าจะได้สัมผัสกับลมหนาวยาวนานสักกี่วัน? แล้วจะหนาวสักกี่องศา? ส่วนใครที่ไม่อยากรอ..หรืออยากสัมผัสลมหนาวเย็นของแท้แบบหิมะตกปรอยๆ จะได้เซลฟี่ภาพสวยๆ ก็จะเลือกไปรับลมหนาวกันที่ต่างประเทศ
 
เพื่อผิวสวยเป๊ะปัง พร้อมท้าลมหนาวและเซลฟี่ภาพสวยๆ มาลงโซเซียลมีเดีย ดาวได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

1. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น (อุ่นจนเกือบร้อน) และไม่ควรอาบน้ำเกิน 10 นาที
การดูแลผิวในหน้าหนาวเริ่มได้ตั้งแต่ขั้นตอนการอาบน้ำ หลายคนชอบอาบน้ำอุ่นที่ค่อนไปทางร้อนในช่วงอากาศแบบนี้ เพราะว่า น้ำเย็นมาก เกินกว่าที่เราจะทนไหว! เราจึงเลือกอาบน้ำอุ่น(จัด) เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและทำให้เราสบายตัวตอนอาบน้ำ แต่...ผลที่ได้หลังจากอาบน้ำนั้นคือ ความชุ่มชื้นในผิวจะลดลง และยิ่งอาบน้ำนานเท่าไหร่ ผิวก็จะยิ่งสูญเสียความชุ่มชื้นได้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุยได้ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นเราอาจจะต้องกลั้นใจอาบน้ำที่อุณหภูมิปกติ และเลือกใช้สบู่อ่อนๆ ฟองไม่เยอะ ระยะเวลาประมาณ 5 – 10 นาที  เพื่อรักษาผิวให้สวยพร้อมเซลฟี่

 

2. ทาครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกายหลังอาบน้ำ ภายใน 3 - 5 นาที
ช่วงนาทีทองของการบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น คือ ภายใน 3 – 5 นาทีแรก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เนื่องจากความชุ่มชื้นจะถูกกักเก็บได้ดีที่สุดตอนผิวยังหมาดๆ โดยเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนประกอบเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี เช่น olive oil, jojoba oil, shea butter, urea, glycerin หรือ hyaluronic acid ซึ่งเรามักเรียกกันว่า ไฮยารูรอน หรือ ไฮยา และหลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ  AHA หรือเรตินอยด์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น

 

3. พกลิปบาล์มและแฮนด์ครีมติดตัวไว้เสมอ
เมื่อดูแลผิวหน้าและผิวกายให้สวยเป๊ะปังแล้ว ก็ต้องไม่ลืมดูแลริมฝีปากและมือด้วย เพราะอวัยวะทั้ง 2 ส่วนนี้สัมผัสอากาศที่แห้งและเย็นตลอดเวลา ทำให้ริมฝีปากแห้งและแตกง่ายขึ้น จึงไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อยๆ และควรหมั่นทาลิปบาล์มอยู่เสมอ ส่วนมือนั้น เดี๋ยวเราก็จับนู่นนี่นั่น แล้วก็ล้างมืออยู่เรื่อยๆ ทำให้มือลอกและแตกได้ง่ายขึ้น เราควรรีบเช็ดมือให้แห้งหลังล้างมือและทาแฮนด์ครีมทันที

 

4. ดื่มน้ำเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
เมื่อเพื่อนๆ เริ่มรู้สึกว่า ผิวของตัวเองแห้ง และเริ่มมีอาการคันยิบๆ ขึ้นมาแล้วละก็ อย่านิ่งนอนใจว่า เอ๊ะ! ทามอยเจอร์ไรเซอร์น้อยเกินไปหรือป่าว จริงๆ แล้วอาจจะเกิดจากการที่เราดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเราก็ได้นะคะ ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 – 10 แก้ว (แก้วละประมาณ 250 ซีซี) เพราะร่างกายต้องการน้ำเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นตลอดเวลา

 

5. กิน(อาหาร)ดี...บำรุงให้ผิวสตรอง
เราควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ตามหลักการดูแลสุขภาพทั่วไป แต่สิ่งที่ดาวอยากเน้นเป็นพิเศษในช่วงหน้าหนาวอากาศเย็น คืออาหารที่มี omega 3 เพราะเป็นไขมันชนิดดี โดยเน้นกินปลา ถั่ว เนื้อไก่ และเน้นอาหารหรือผักผลไม้ที่มีวิตามิน A, C, E และ Zinc เช่น ผักใบเขียว มะเขือเทศ สับปะรด แอปเปิ้ล เพื่อเติมอาหารให้กับผิว

 

6. เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
อากาศในช่วงหน้าหนาวจะแห้งและเย็นมาก การเลือกใส่เสื้อผ้าในช่วงนี้จึงควรเลือกเนื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่บาดหรือระคายเคืองผิว เช่น ผ้าคอตตอน ส่วนการใช้ผ้าขนสัตว์หรือใยสังเคราะห์อาจจะทำให้คันหรือระคายเคืองผิวได้

 

เห็นไหมคะว่าวิธีรับมือกับปัญหาผิวแห้ง ผิวแตกในช่วงหน้าหนาวไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่เพื่อนๆ ดูแลและบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลาตาม 6 เคล็ดลับที่ดาวนำมาฝากกันในวันนี้ รับรองว่าลมหนาวจะไม่สามารถพัดพาความชุ่มชื้นออกไปจากผิวสวยเป๊ะปังของเพื่อนๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ