รู้หรือไม่...เพียงแค่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ก็ทำให้เรามีผิวสวยแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีได้
เราลองมาเช็คกันค่ะว่า สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เราได้ทำแล้วหรือยัง???
เริ่มกันที่ Checklist ที่ 1: เช้าที่สดใส เตรียมตัวออกจากบ้าน
หลังจากที่เราตื่นนอนแล้ว...นี่คือสิ่งที่เราควรทำ
1. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่ที่อ่อนโยน
หากตื่นเช้ามาแล้วผิวหน้าของเรามัน ควรล้างหน้าด้วยสบู่ที่อ่อนโยน แต่ถ้าผิวหน้าเราไม่มันการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ควรใช้น้ำสะอาดที่มีอุณหภูมิปกติล้างหน้า เพราะการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัด หรือ เย็นจัด อาจทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง และผิวแห้งขึ้นได้
2. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ภายใน 3 นาที
ช่วงนาทีทองของการบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น คือ ภายใน 3 – 5 นาทีแรก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เนื่องจากความชุ่มชื้นจะถูกกักเก็บได้ดีที่สุดตอนผิวยังหมาดๆ
3. ทาครีมกันแดด
เราทาครีมบำรุงแล้ว ก็ไม่ควรลืมที่จะปกป้องผิวนะคะ เราควรเลือกใช้ครีมกันแดด ที่ปกป้องได้ครบทุกรังสี UV มีค่า SPF 30-50 และค่า PA+++ เนื่องจากรังสียูวีเป็นตัวการร้ายที่ทำให้ผิวเกิดสารอนุมูลอิสระ นำไปสู่ ผิวแพ้ง่ายและปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยแก่ก่อนวัย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
4. ทาลิปบาล์ม
ปากของเราก็ต้องการการบำรุงเช่นเดียวกันกับผิวบริเวณอื่นๆ ถ้าไม่อยากให้ปากแห้ง แตก เกิดร่องลึก อย่าลืมทาลิปบาล์มนะคะ
5. ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วหลังจากตื่นนอน
การดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วที่อุณหภูมิห้อง หลังจากตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
6. ทานอาหารมื้อเช้า
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน จึงมีคนพูดว่า “หากอยากจะมีวันที่ดี จะต้องกินมื้อเช้าอย่างราชา” เพราะร่างกายเราต้องการพลังงานที่จะไปใช้ในการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน โดยเราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงแต่จำกัดปริมาณแป้งและน้ำตาล
อิ่มแล้วก็พร้อมที่จะลุยงานทำกิจกรรมในช่วงเช้ากันเลย....แต่เผลอแปบๆ อ้าวเที่ยงซะละ
มาเช็ค Checklist ที่ 2: เพิ่มความสดชื่น พร้อมลุยต่อระหว่างวัน กันค่ะ
1. ขยับร่างกายอย่างน้อยทุก ๆ 1ชั่วโมง
การขยับร่างกาย ลุก เดิน นั่ง ระหว่างวัน ทุกๆ 1 ชั่วโมง นอกจากจะช่วยให้ร่างกายเราตื่นตัว รู้สึกกระฉับกระเฉงแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอีกด้วย เช่น โรคออฟฟิศซินโดรม โรคอ้วน
2. หลีกเลี่ยงการตากลมและตากแดด
การตากลมอาจจะทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย แต่ก็ทำให้ผิวของเราเสียความชุ่มชื้นได้เช่นกัน และหากลมเข้าตาบ่อยๆ อาจจะทำให้ตาระคายเคืองและแดงได้ และหากคุณมีความจำเป็นต้องออกแดดก็ควรกางร่มทุกครั้งเพื่อป้องกันรังสียูวีที่จะมาสัมผัสผิวของเรา
3. ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 6 - 8 แก้ว ในช่วงที่เราทำงานหรือทำกิจกรรมระหว่างวัน
เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย (2 ใน 3 ของร่างกายเราคือ น้ำ) การที่เราได้รับน้ำในประมาณที่น้อยเกินไปเซลล์เราจะแห้ง (สังเกตง่ายๆ จากผิว) และน้ำยังมีส่วนช่วยในการลำเลียงสารไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ หรือปัสสาวะ ยังช่วยให้อุจจาระไม่แข็งจนเกินไป นอกจากนี้น้ำยังช่วยในการปรับสมดุลภายในร่างกายอีกด้วย
4. รับประทานอาหารกลางวันและอาหารเย็นในปริมาณที่ลดน้อยลง เมื่อเทียบกับมื้อเช้า
ในกรณีที่เราไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะ (เช่น การออกกำลังกาย) ในช่วงบ่ายและเย็น เราควรรับประทานอาหารกลางวันและเย็น ในปริมาณที่น้อยลง เมื่อเทียบกับมื้อเช้า เพราะถ้าร่างกายเราไม่สามารถเผาผลาญแคลอรี่ (ที่เราทานไปช่วงกลางวันและเย็น) ได้ทัน ก็จะถูกสะสมให้อยู่ในรูปของไขมัน และหากสะสมมากๆ ก็กลายเป็นความอ้วน ในที่สุด
5. ทานถั่วหรือผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำได้ เมื่อเรารู้สึกหิว เช่น ถั่วอัลมอนด์ ฝรั่ง แตงโม แก้วมังกร แอปเปิ้ล
6. หลัง 18.00 น. ควรงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เพราะอาจส่งผลทำให้เรานอนหลับไม่สนิทได้
และแล้วก็หมดไป 1 วันกับกิจกรรมนอกบ้าน เรามาเช็คสิ่งที่ควรทำก่อนนอนกับ
Checklist ที่ 3: ได้เวลาเตรียมตัวนอน พร้อมรับวันใหม่
1. เช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาด
ถ้าอยากมีหน้าเนียนเรียบ สวยใสไร้สิว ขั้นตอนที่สำคัญและต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือ การเช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาด โดยเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่สามารถเช็ดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด (คนที่ทาครีมกันแดด แต่ไม่แต่งหน้าก็ต้องใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้านะคะ เพราะครีมกันแดดส่วนใหญ่ในปัจจุบันสามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้) และใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง
2. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ภายใน 3 นาที
ช่วงนาทีทองของการบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น คือ ภายใน 3 – 5 นาทีแรก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เนื่องจากความชุ่มชื้นจะถูกกักเก็บได้ดีที่สุดตอนผิวยังหมาดๆ
3. งดเล่นมือถือก่อนนอนอย่างน้อย 30 นาที
เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือ จะทำให้ร่างกายรับรู้ว่ายังไม่มืด และหลั่งสารเมลาโตนิน ทำให้เราหลับยาก
"การนอนหลับพักผ่อนที่มีคุณภาพ" จะทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า ช่วยให้ใบหน้าแลดูสดใส ไม่หมองคล้ำ และช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ความจำ หรือระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
มาถึง Checklist ที่ 4: สำหรับเพื่อนๆ ที่ผิวบอบบาง เป็นสิวง่าย โดยเฉพาะ
เพื่อนๆ เคยรู้สึกมั้ยว่า ทายาสิว รักษาสิวยังไง สิวก็ไม่หายไปจากเราสักที? ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเรามักจะลืม....
1. ล้างมือให้สะอาด
2. ชอบเอามือมาจับหน้าระหว่างวัน ทั้งเกา แกะ หรือบีบสิว
3. ทำความสะอาดมือถือ
4. ล้างทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า เช่น ฟองน้ำแต่งหน้า แปรงแต่งหน้า
5. เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ
พฤติกรรมขี้ลืม(รักษาความสะอาด) ของเราทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นการนำพาเชื้อแบคทีเรียมาสู่เราได้ทั้งจากการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนังและจากการที่เรานำมือไปหยิบจับสิ่งของมารับประทาน
สำหรับผู้ที่ผิวบอบบาง มีสิวง่าย นอกจากจะต้องรักษาความสะอาดตามข้อ 1-5 แล้ว สิ่งที่ควรระวังเพิ่มเติมคือ
1. ควรล้างหน้าทันทีหลังจากการออกกำลังกายเสร็จ เพราะในบางคนสิวอาจจะเกิดจากเหงื่อที่ไหลลงมาตามกรอบหน้าของเรา
2. ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แชมพูและครีมนวดผมโดนใบหน้า นอกจากนี้ ระหว่างวันก็ไม่ควรให้เส้นผมมาสัมผัสใบหน้า เพราะอาจจะทำให้ผิวหน้าของเราระคายเคืองได้จากการเสียดสี หรือการสัมผัสโดนผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม
ครบแล้วค่ะ 4 Super Checklists ทำได้ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ แต่เพื่อนๆ ทำกันได้ครบทุกข้อมั้ยเอ่ย ถ้าใครยังทำไม่ครบทุกข้อ ลองทำตามดูนะคะ ดาวเชื่อว่า เพื่อนๆ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวและสุขภาพในทางที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ

โดยดาวได้แบ่ง Checklists ให้เพื่อนๆ ไว้เป็น 4 หัวข้อ ตามช่วงเวลาที่เราต้องทำกิจกรรมในแต่ละวัน
เราลองมาเช็คกันค่ะว่า สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เราได้ทำแล้วหรือยัง???
เริ่มกันที่ Checklist ที่ 1: เช้าที่สดใส เตรียมตัวออกจากบ้าน

หลังจากที่เราตื่นนอนแล้ว...นี่คือสิ่งที่เราควรทำ
1. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือสบู่ที่อ่อนโยน
หากตื่นเช้ามาแล้วผิวหน้าของเรามัน ควรล้างหน้าด้วยสบู่ที่อ่อนโยน แต่ถ้าผิวหน้าเราไม่มันการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ควรใช้น้ำสะอาดที่มีอุณหภูมิปกติล้างหน้า เพราะการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจัด หรือ เย็นจัด อาจทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง และผิวแห้งขึ้นได้
2. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ภายใน 3 นาที
ช่วงนาทีทองของการบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น คือ ภายใน 3 – 5 นาทีแรก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เนื่องจากความชุ่มชื้นจะถูกกักเก็บได้ดีที่สุดตอนผิวยังหมาดๆ
3. ทาครีมกันแดด
เราทาครีมบำรุงแล้ว ก็ไม่ควรลืมที่จะปกป้องผิวนะคะ เราควรเลือกใช้ครีมกันแดด ที่ปกป้องได้ครบทุกรังสี UV มีค่า SPF 30-50 และค่า PA+++ เนื่องจากรังสียูวีเป็นตัวการร้ายที่ทำให้ผิวเกิดสารอนุมูลอิสระ นำไปสู่ ผิวแพ้ง่ายและปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยแก่ก่อนวัย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
4. ทาลิปบาล์ม
ปากของเราก็ต้องการการบำรุงเช่นเดียวกันกับผิวบริเวณอื่นๆ ถ้าไม่อยากให้ปากแห้ง แตก เกิดร่องลึก อย่าลืมทาลิปบาล์มนะคะ
5. ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วหลังจากตื่นนอน
การดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วที่อุณหภูมิห้อง หลังจากตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
6. ทานอาหารมื้อเช้า
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน จึงมีคนพูดว่า “หากอยากจะมีวันที่ดี จะต้องกินมื้อเช้าอย่างราชา” เพราะร่างกายเราต้องการพลังงานที่จะไปใช้ในการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน โดยเราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพียงแต่จำกัดปริมาณแป้งและน้ำตาล
อิ่มแล้วก็พร้อมที่จะลุยงานทำกิจกรรมในช่วงเช้ากันเลย....แต่เผลอแปบๆ อ้าวเที่ยงซะละ
มาเช็ค Checklist ที่ 2: เพิ่มความสดชื่น พร้อมลุยต่อระหว่างวัน กันค่ะ

1. ขยับร่างกายอย่างน้อยทุก ๆ 1ชั่วโมง
การขยับร่างกาย ลุก เดิน นั่ง ระหว่างวัน ทุกๆ 1 ชั่วโมง นอกจากจะช่วยให้ร่างกายเราตื่นตัว รู้สึกกระฉับกระเฉงแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอีกด้วย เช่น โรคออฟฟิศซินโดรม โรคอ้วน
2. หลีกเลี่ยงการตากลมและตากแดด
การตากลมอาจจะทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย แต่ก็ทำให้ผิวของเราเสียความชุ่มชื้นได้เช่นกัน และหากลมเข้าตาบ่อยๆ อาจจะทำให้ตาระคายเคืองและแดงได้ และหากคุณมีความจำเป็นต้องออกแดดก็ควรกางร่มทุกครั้งเพื่อป้องกันรังสียูวีที่จะมาสัมผัสผิวของเรา
3. ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 6 - 8 แก้ว ในช่วงที่เราทำงานหรือทำกิจกรรมระหว่างวัน
เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย (2 ใน 3 ของร่างกายเราคือ น้ำ) การที่เราได้รับน้ำในประมาณที่น้อยเกินไปเซลล์เราจะแห้ง (สังเกตง่ายๆ จากผิว) และน้ำยังมีส่วนช่วยในการลำเลียงสารไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ หรือปัสสาวะ ยังช่วยให้อุจจาระไม่แข็งจนเกินไป นอกจากนี้น้ำยังช่วยในการปรับสมดุลภายในร่างกายอีกด้วย
4. รับประทานอาหารกลางวันและอาหารเย็นในปริมาณที่ลดน้อยลง เมื่อเทียบกับมื้อเช้า
ในกรณีที่เราไม่จำเป็นต้องทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะ (เช่น การออกกำลังกาย) ในช่วงบ่ายและเย็น เราควรรับประทานอาหารกลางวันและเย็น ในปริมาณที่น้อยลง เมื่อเทียบกับมื้อเช้า เพราะถ้าร่างกายเราไม่สามารถเผาผลาญแคลอรี่ (ที่เราทานไปช่วงกลางวันและเย็น) ได้ทัน ก็จะถูกสะสมให้อยู่ในรูปของไขมัน และหากสะสมมากๆ ก็กลายเป็นความอ้วน ในที่สุด
5. ทานถั่วหรือผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำได้ เมื่อเรารู้สึกหิว เช่น ถั่วอัลมอนด์ ฝรั่ง แตงโม แก้วมังกร แอปเปิ้ล
6. หลัง 18.00 น. ควรงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เพราะอาจส่งผลทำให้เรานอนหลับไม่สนิทได้
และแล้วก็หมดไป 1 วันกับกิจกรรมนอกบ้าน เรามาเช็คสิ่งที่ควรทำก่อนนอนกับ
Checklist ที่ 3: ได้เวลาเตรียมตัวนอน พร้อมรับวันใหม่

1. เช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาด
ถ้าอยากมีหน้าเนียนเรียบ สวยใสไร้สิว ขั้นตอนที่สำคัญและต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือ การเช็ดเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาด โดยเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่สามารถเช็ดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด (คนที่ทาครีมกันแดด แต่ไม่แต่งหน้าก็ต้องใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้านะคะ เพราะครีมกันแดดส่วนใหญ่ในปัจจุบันสามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้) และใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง
2. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ภายใน 3 นาที
ช่วงนาทีทองของการบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น คือ ภายใน 3 – 5 นาทีแรก หลังจากอาบน้ำเสร็จ เนื่องจากความชุ่มชื้นจะถูกกักเก็บได้ดีที่สุดตอนผิวยังหมาดๆ
3. งดเล่นมือถือก่อนนอนอย่างน้อย 30 นาที
เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือ จะทำให้ร่างกายรับรู้ว่ายังไม่มืด และหลั่งสารเมลาโตนิน ทำให้เราหลับยาก
"การนอนหลับพักผ่อนที่มีคุณภาพ" จะทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า ช่วยให้ใบหน้าแลดูสดใส ไม่หมองคล้ำ และช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ความจำ หรือระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
มาถึง Checklist ที่ 4: สำหรับเพื่อนๆ ที่ผิวบอบบาง เป็นสิวง่าย โดยเฉพาะ

เพื่อนๆ เคยรู้สึกมั้ยว่า ทายาสิว รักษาสิวยังไง สิวก็ไม่หายไปจากเราสักที? ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเรามักจะลืม....
1. ล้างมือให้สะอาด
2. ชอบเอามือมาจับหน้าระหว่างวัน ทั้งเกา แกะ หรือบีบสิว
3. ทำความสะอาดมือถือ
4. ล้างทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า เช่น ฟองน้ำแต่งหน้า แปรงแต่งหน้า
5. เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ
พฤติกรรมขี้ลืม(รักษาความสะอาด) ของเราทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นการนำพาเชื้อแบคทีเรียมาสู่เราได้ทั้งจากการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนังและจากการที่เรานำมือไปหยิบจับสิ่งของมารับประทาน
สำหรับผู้ที่ผิวบอบบาง มีสิวง่าย นอกจากจะต้องรักษาความสะอาดตามข้อ 1-5 แล้ว สิ่งที่ควรระวังเพิ่มเติมคือ
1. ควรล้างหน้าทันทีหลังจากการออกกำลังกายเสร็จ เพราะในบางคนสิวอาจจะเกิดจากเหงื่อที่ไหลลงมาตามกรอบหน้าของเรา
2. ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แชมพูและครีมนวดผมโดนใบหน้า นอกจากนี้ ระหว่างวันก็ไม่ควรให้เส้นผมมาสัมผัสใบหน้า เพราะอาจจะทำให้ผิวหน้าของเราระคายเคืองได้จากการเสียดสี หรือการสัมผัสโดนผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม
ครบแล้วค่ะ 4 Super Checklists ทำได้ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ แต่เพื่อนๆ ทำกันได้ครบทุกข้อมั้ยเอ่ย ถ้าใครยังทำไม่ครบทุกข้อ ลองทำตามดูนะคะ ดาวเชื่อว่า เพื่อนๆ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวและสุขภาพในทางที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ
- Tags :
- การดูแลผิวหน้า
- การดูแลสุขภาพ